ทีนี้หลายท่านโดยเฉพาะ "มือใหม่" หลายๆคนยังไม่เข้าใจเลยนั่นก็คือ "#การซื้อยกกระสอบ" 
แท้จริงแล้วการซื้อยกกระสอบจะไม่ใช่100 คู่3,000 100คู่5,000 แต่เป็นราคาสูงถึงหลัก "หมื่นบาทกับรองเท้าแค่ 40 คู่เท่านั้น
"
1. ยกกระสอบแท้จริง คือ การยกกระสอบที่เป็นงานดิบลงจากตู้คอนเทนเนอร์มาเลยไม่ผ่านการคัดแยก หัว หาง หรือขยะใดๆทั้งสิ้น ต้นทุนปกติจะอยู่ที่ "คู่ละ280-500฿ แล้วแต่เกรดแล้วแต่ประเภท" (มีบางประเภทที่ราคาต่ำกว่า เช่น คัทชูหญิงแฟชั่น รองเท้าเด็ก รองเท้าผ้าใบหญิง และกระสอบB(กระสอบBต้นทุนเพียง140฿เท่านั้นแต่แทบจะไม่มีหัวตัวแพง หรือรองเท้าสภาพดีๆที่ไม่ต้องซ่อมอยู่เลย นิยมไปเปิด650฿แบบคัดอิสระ หรือพวกตกลงเอาหัวกระสอบละ1คู่จากนั้นให้คัดน้ำแล้วเหลือส่งต่อให้ชาวอินโด รายละเอียดขอไม่ลงลึกมากเนื่องจากอาจจะกระทบร้านอื่นค่ะ) โดยใน1กระสอบดิบจะมีเพียง40คู่เท่านั้น ผู้ซื้อจะต้องทำการคัดแยกเป็น ต้องขายให้ได้ทุกเกรด หัวกลาง หาง รับให้ได้กับของเสีย ต้องเฉลี่ยราคาเป็น ต้องซัก ซ่อมเองเป็นค่ะจึงจะสามารถไปต่อได้ ไม่เช่นนั้น ไม่รอดค่ะ
2. ยกกระสอบตามเกรด อันนี้จะพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะโรงเกลือ ซึ่งตามร้านจะคัดเกรดใดเกรดหนึ่ง เช่นหาง 40฿ 50฿ 60฿หรือ100฿ มาซ่อมใส่กระสอบละ100คู่ จากนั้นก็บวกกำไรไปแล้วตั้งให้ยกกระสอบ 100คู่ 6,000 บ้าง 100คู่ 16,000 บ้าง #บางท่านไม่เข้าใจมองแต่ราคาถูกเป็นหลักก็มักจะไม่ได้สภาพสินค้าตามที่คาดหวัง หรือมองว่าเห้ยฉันจะไปซื้อร้านที่ขายราคาส่ง5-600ไปทำไม ในเมื่อร้านนี้ขายยกกระสอบแค่3,500 หรือ 13,000 เองคุ้มกว่าประหยัดกว่าตั้งเยอะ แต่ท่านอาจจะไม่ทราบว่าในราคาต่ำๆจะไม่มีรุ่นที่ทำราคาสูงๆได้เลย ยิ่งถูกมากๆหลักสิบคนขายบอกสวยพื้นเต็ม แต่พอท่านได้ของบางทีแทบหงายหลังเพราะเกือบจะเป็นขยะเลย ข้างบนตอนถ่ายรูปสวยจริงแต่พื้นแห้งตายต้องทาสีกลบ หรือพื้นสึกจนเรียบต้องมาแกะมากรีดลายให้พอใช้ต่อได้อีกนิด (อย่าลืมว่าทุกอย่างมีต้นทุนของมันค่ะ ค่าจ้างซักสะอาดๆ+ซ่อมเก็บงานเรียบร้อยๆ ไม่ใช่กาวร้อนหยอดอย่างเดียว บางคนก็เกิน50บาทต่อคู่แล้วค่ะ) ***เพราะการซื้อแบบนี้คือซื้อเกรดใดเกรดหนึ่งในจำนวนx100คู่ค่ะ*** ไม่มีหัวในราคาถูก100%ค่ะ บางท่านคิดว่ายกกระสอบจะได้ของดีราคาถูกแล้วคุ้มแน่นอน ลองพิจารณาดูนะคะว่า "ถ้ารุ่นใหม่ สภาพดีๆไม่มีซ่อม หัวหรือกลางที่ลงมาทีละ20฿ จะ400 380 350 300 280 260.....180 160 140 .... 80 60 เป็นสิบๆลำดับ จะโยนลงมาเหลือหลักสิบหรือร้อยกว่าบาททำไม ไหนจะมาบวกค่าแรงทำความสะอาดอีก ค่าเช่าอีก ทุกอย่างมีต้นทุนค่ะ เช่นเดียวกับการซื้อรถมือสอง ยุโรป หรือรุ่นท็อปๆ รุ่นใหม่ ไมล์น้อย ไม่มีชนหนักแต่ราคาถูกเทียบเท่าอีโค่คาร์ ท่านว่ามันจะราคาลงมาถึงได้ไหมในความเป็นจริง...ใช่ค่ะ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกเสียจาก รถคันนั้นหรือรองเท้าคู่นั้น มีตำหนิหรือปัญหาอะไรสักอย่าง คนคัดบนๆจึงโยนลงมาเหลือราคาร้อยกว่าบาท หรือหลักสิบ ไม่งั้นเขาเอาไปทำกำไรกันหมดแล้วค่ะ
ฉะนั้นสรุปแล้วก็คือ "การยกกระสอบที่หลายท่านเข้าใจ จะหมายถึงการ ซื้อเกรดใดเกรดหนึ่งแล้ว x ด้วยจำนวนคู่ค่ะ เกรด50 100คู่ก็กระสอบละ5000 เกรด130 ก็กระสอบละ13000 เกรด200 ก็กระสอบละ20000 เกรด600ก็กระสอบละ 60000" ไม่ใช่ว่าซื้อยกกระสอบยิ่งราคาถูกยิ่งคุ้ม หรือยิ่งประหยัดนะคะ อย่าลืมคำนวนของที่ต้องทิ้งไปด้วยค่ะ "ของมือสองปัจจัยชี้วัดสภาพคือ ราคาค่ะ" เพราะผู้นำเข้ามีต้นทุนทุกคู่เฉลี่ยเท่ากัน แต่มีจำนวนของเสียของทิ้งที่ต้องมาใช้คำนวนเพิ่มในจำนวนคู่ที่ขายได้ จึงไม่มีทางที่จะนำของเสียมาขายปลีกในราคาเท่ากับของหัว หรือสภาพไร้ตำหนิได้อยู่แล้วค่ะ นั่นคือต้นทุนที่หายไปค่ะ การซื้อยกกระสอบมายิ่งราคาหลักสิบหรือคู่ละ1xx ยิ่งถูกยิ่งเสียเยอะ ท่านแทบจะต้องเจอปัญหาเหล่านี้บ้างขึ้นอยู่กับร้านที่ท่านซื้อต่อมาค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับร้านค้าและกลุ่มเป้าหมายของผู้ขายเป็นสำคัญด้วยค่ะ
นี่คือเรื่องของการยกกระสอบที่มีหลายท่านมากๆไม่เข้าใจค่ะ หวังทุกท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ และไม่มีใครโดนหลอกว่ายกกระสอบคุ้มที่สุด ประหยัดที่สุด หรืออะไรก็ตามที่ชักจูงโน้มน้าวใจท่าน ท่านคือผู้ถือเงิน คือผู้ตัดสินใจหาเกรดสินค้าที่เหมาะกับร้านของท่าน อย่าลืมข้อสำคัญคือ ราคาเป็นตัวชี้วัดสภาพค่ะ