วันนี้ร้าน Footlongshoes ขายส่งรองเท้ามือสองกรุงเทพ มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ Nike Air Jordan มาฝากกันค่ะ^^
ในประวัติศาสตร์ของรองเท้าผ้าใบ มีรองเท้ามากมายที่มีเอกลักษณ์โดเด่น อย่างเช่น Converse Weapon, Vans Slip-On ที่มีลายตารางหมากรุกอันเป็นเอกลักษณ์ และ Nike Air Max 1 ที่ไม่มีใครเหมือน แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ๆมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราอาจจะตามไม่ทันกันเลย แล้ววันนี้เรามีข้อมูลของรองเท้า ที่แตกต่างจากรองเท้าอื่นๆ และไม่มีรองเท้าอื่นใดในโลกที่จะเหมือนอย่างตำนานรองเท้าบาสอย่าง Air Jordan 1
AJ1 เป็นรองเท้าที่เริ่มต้นทำเกี่ยวกับตลาดรองเท้าผ้าใบตั้งแต่ช่วงแรก หลายๆคนมักจะมองว่ามันคือรองเท้าผ้าใบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นอมตะตลอดกาล เรื่องราวต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยไมเคิล จอร์แดนยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย (ซึ่งรู้ไหมว่าจริงๆแล้วรองเท้าที่ Michael Jordan ชื่นชอบก็คือ รองเท้า Converse's Chuck Taylor รองเท้าที่เขาชอบมากจนต้องเซ็นสัญญา) แล้วในท้ายที่สุดเขาก็ได้เข้าสู่วงการ NBA โดยทาง Nike พยายามโน้มน้าวเขาอย่างเต็มที่ด้วยการนำเสนอแผนการที่จะทำให้ Jordan กลายมาเป็นแบรนด์ทั้งหมด ไม่ใช่แค่รองเท้า แต่จอร์แดนกลับไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะเขาไม่ชอบรองเท้าของ Nike เนื่องจากพื้นรองเท้าหนาเกินไป จอร์แดนอยากให้เปลี่ยนแปลงซึ่ง Nike ก็ยินดีที่จะทำ โดยผู้ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับ Air Jordanก็คือ Peter C. Moore ผู้อำนวยการสร้างของ Nike ผู้ออกแบบรองเท้าคู่แรกของ Jordan เมื่อมองแวบแรก Jordan ไม่ชอบดีไซน์ของ Jordan I โดยบอกว่า “รองเท้าตัวตลก”

ต่อมาเมื่อจอร์แดนได้สวมใส่ Air Jordan 1 ลงสนามแต่ก็ต้องโดนปรับ เพราะเป็นสี "ต้องห้าม" หรือที่เรียกว่า "Bred" หรือสีดำและสีแดง มันเป็นรองเท้าที่ "ถูกแบน" จากกฎของลีกในขณะนั้นระบุว่ารองเท้าของผู้เล่นต้องมีสีขาวอย่างน้อย 51% หรือที่เรียกว่า "กฎ 51%" และเนื่องจากรองเท้าส่วนใหญ่เป็นสีแดงและสีดำ จอร์แดนจึงถูกปรับ 5,000 ดอลลาร์ต่อเกม ไม่มีการยืนยันใด ๆ ว่ามีการเรียกเก็บค่าปรับใดจากจอร์แดน มีเพียงจดหมายที่ส่งถึงเขาโดยผู้บริหารของ NBA เพื่อเตือนเขาเกี่ยวกับค่าปรับ แต่มันกลายเป็นแผนการตลาดที่ดีเยี่ยมมากๆ และเมื่อรองเท้าถูกปล่อยขายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ราคา 65 ดอลลาร์ต่อคู่ ก็ขายหมดในทันที และทันทีที่พวกเขาขายหมด ไนกี้ก็จะเติมสต็อกจนกว่ารองเท้าจะล้นสต็อก ทำให้ราคาลดลงเหลือ 20 ดอลลาร์ในปี 2528 ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การวางชั้นวางรองเท้าในปี 2529 เมื่อถึงเวลานั้น 13 สีสันของ Jordan 1 ได้รับการปล่อยตัวแล้วรวมถึง "Banned" "Chicago" "Retro Royal" "Carolina Blue" และอื่น ๆ และถึงแม้ว่าจะมีการออกสีอื่นๆ มากมายในอนาคต แต่สีจากปีดั้งเดิมนั้นยังคงเป็นที่ต้องการมากที่สุด

ในปี 2544 Nike Air Jordan I ได้รับการออกใหม่ และได้ทำการเปิดตัว Jordan Brand ในเฉดสีคลาสสิก “Retro Royal” และ “Breds” รวมถึงสีสันใหม่สองสามสีอย่าง “Midnight Navy”, “White Chrome” และ “Black/Metallic Gold” แบรนด์ Jordan ออกใหม่ (โดยเฉพาะ “White Chrome”) ก็เป็นครั้งแรกที่รองเท้ารุ่นนี้มี Jumpman แทนที่จะเป็น Swoosh และเป็นซีรีส์แรกที่มีการเปิดตัวรุ่นข้อต่ำ
ในท้ายที่สุดการออกแบบใหม่ก็เกิดขึ้นในเดือนเมษายนปี 2007 เมื่อ Jordan Brand เปิดตัว Jordan 1 (อีกครั้ง) โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “Old Love, New Love” แพ็กสองชุดที่มีสีแบบย้อนยุค “Black Toe” จับคู่กับคู่ใหม่ที่เป็นสีเหลืองและ สีดำ. แล้วต่อมาก็ได้มีการเปิดตัวสีและรุ่นใหม่ๆ มากมายในเวอร์ชัน “Phat,” “25th Anniversary” และ “Frags”
Air Jordan 1 ได้ผ่านช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ หลายครั้งตลอด 36 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดได้จบลงแล้ว มันได้กลายมาเป็นรองเท้าในตำนานที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นรองเท้าแฟชั่นสายสตรีทในปัจจุบัน และในอนาคต ก็จะยังคงความคลาสสิก ความเรียบง่าย ที่แฝงความทันสมัยแปลกใหม่ไม่รู้จบต่อไป
ที่มา : footwearnews